หน้าหลัก
ผลิตภัณฑ์และบริการ
โปรโมชั่น
ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจ
SME Focus Magazine
งานสัมมนา
โครงการอบรม
คำนวณสินเชื่อเบื้องต้น
ค้นหาจุดบริการ
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

FOLLOW US Krungthai SME​


สนใจรับวิจัยธุรกิจและความรู้กรุงไทย SME ทางอีเมล์
Krungthai SME

การออกแบบ Packaging ควรพิจารณาปัจจัยใดบ้าง ?

 

Packaging คือหน้าตาของทั้งสินค้าและบริษัท มันเป็นสิ่งที่ต้องมีความปราณีตในการออกแบบสุดๆ อย่างหนึ่ง และปัญหาคลาสสิคของการออกแบบ Packaging ก็คือ เราควรจะออกแบบมันแบบเน้นความสวยงามหรือประโยชน์ใช้สอยดี

ซึ่งคำตอบคลาสสิคก็คือ ถ้า Packaging อะไรทั้งสวยงามและได้ประโยชน์ใช้สอย มันก็คือสุดยอด

...นี่เป็นสิ่งที่พูดง่าย แต่ทำยาก ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าครับว่าการออกแบบ Packaging จะเน้นที่ความสวยงาม หรือการใช้งานต้องพิจารณาปัจจัยดังนี้

ผลิตภัณฑ์ตอนใช้งาน

พื้นฐานเลย Packaging ผลิตภัณฑ์ก็ต้องเหมาะกับการใช้งาน ซึ่งเวลาพูดถึงการเหมาะกับการใช้งาน มันไม่ได้หมายถึงการใช้งานแบบดิบๆ ทื่อๆ นะครับ แต่มันต้องคำนึงถึงภาวะจริงๆ ว่าผลิตภัณฑ์มันจะไปวางอยู่กับอะไรด้วย ผลิตภัณฑ์ที่ Packaging เหมาะแก่การใช้งาน แต่พอเอาไปวางกับสิ่งอื่นๆ สร้างความสับสนและงงให้กับผู้ใช้ก็ไม่เวิร์ค อันนี้ความสวยงามและโดดเด่นเลยมีบทบาทสำคัญมาก เอาง่ายๆ ลองนึกถึงขวดซอสนะครับ ในทางทฤษฎี มันหน้าตาเหมือนกันหมดก็ใช้งานได้เหมือนกัน แต่ถ้ามันหน้าตาเหมือนกันหมด ผู้ใช้ก็อาจงงๆ แยกไม่ออก ต้องหยิบมาดูทีละขวดว่ามันคืออะไร ซึ่งในแง่นี้ การออกแบบที่เน้นความสวยงามมีบทบาทที่สำคัญ เป็นต้น

ผลิตภัณฑ์ตอนวางในร้านค้า

การคำนึงถึงว่าผลิตภัณฑ์ของเราจะโดดเด่นหรือไม่ในร้านค้าก็สำคัญแน่ๆ กับ Packaging เพราะนี่เป็นตัวกำหนดสำคัญเลยว่าลูกค้าจะซื้อผลิตภัณฑ์ของเราหรือไม่ (หรือกระทั่งจะหยิบมาดูหรือไม่) ดังนั้น Packaging ผลิตภัณฑ์เราจึงเป็นมากกว่าเรื่องประโยชน์ใช้สอยแน่ๆ ไม่งั้นมันก็คงเหมือนกันทุกแบรนด์ Packaging เราควรจะเด่น เห็นแต่ไกล แต่ก็ไม่ควรจะประหลาดเกินไปทำให้ใช้ยากด้วย ทั้งนี้ ถ้าแบรนด์เรามีหลายๆ ผลิตภัณฑ์คนละประเภทกัน การมี Packaging ที่ต่างกันก็จะช่วยให้ลูกค้าไม่ซื้อผิดซื้อถูกด้วย และตัวอย่างที่ไม่ดีของ Packaging ที่อาจชวนให้สับสนก็เช่น แชมพูกับครีมนวดผม น้ำยาปรับผ้านุ่มกับน้ำยารีดผ้า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้   แบรนด์มักจะให้ Packaging แบบเดียวกัน ต่างกันแค่คำอธิบายบน Packaging ซึ่งผลคือเวลาที่ร้านค้าเอาไปวางใกล้ๆ กัน ผู้บริโภคก็อาจมีการซื้อผลิตภัณฑ์ผิดได้เป็นต้น

ผลิตภัณฑ์ตอนถ่ายรูปออกมา

สิ่งที่ Packaging ต้องคำนึงในยุคดิจิทัลแบบที่ไม่เคยต้องคำนึงมาก่อนคือผลิตภัณฑ์จะถ่ายรูปออกมาเป็นอย่างไร หรือมันจะ “ขึ้นกล้อง” มั้ย นี่เป็นเพราะยุคนี้ผู้บริโภคชอบถ่ายรูปของต่างๆ มาอวดกันและโพสต์ขึ้น Social Media ซึ่งถ้าผลิตภัณฑ์เรามี Packaging ที่เท่ห์ การที่คนซื้อมาแล้วถ่ายรูปโพสต์อวดกันก็อาจไม่แปลกอะไรนัก และสินค้าบางแบบก็ถูกออกแบบมาเพื่อให้คนถ่ายรูปโดยเฉพาะ เช่น อาหารในร้านฮิปๆ ที่การจัดวางให้ถ่ายรูปออกมาสวยนั้นสำคัญกว่ารสชาติด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าเราทำผลิตภัณฑ์ที่เน้นตรงนี้ เราก็อาจต้องคำนึงถึงสีสันของผลิตภัณฑ์เวลามันถ่ายออกมาด้วยกล้องสมาร์ทโฟนยอดฮิตเป็นต้น

ผลิตภัณฑ์ในกระบวนการขนส่ง

แม้ว่าผลิตภัณฑ์เราจะออกแบบให้มันทั้งสวยงามและมีประโยชน์ใช้สอยได้หลากหลาย แต่สิ่งที่เราต้องคำนึงด้วยก็คือการขนส่งสินค้า ไม่ใช่แบบผลิตภัณฑ์ที่สวยงามและใช้งานได้จริงทุกแบบจะนำมาสู่การขน ส่งที่มีประสิทธิภาพในเชิงต้นทุนการขนส่ง เช่น แบบผลิตภัณฑ์สวยๆ หลายๆ แบบนั้นสวยก็จริง แต่มันกินพื้นที่มากๆ ในการขนส่ง และเป็นการเพิ่มต้นทุนของเรา ดังนั้นการออกแบบ Packaging ก็ต้องคำนึงในมิตินี้ด้วย

ต้นทุนการผลิต

ไม่ใช่แค่ต้นทุนการขนส่งที่เราต้องเอามาคิด แต่ต้นทุนการผลิตเราก็ต้องเอามาคิดด้วย Packaging        สุดเท่ห์ กว่าเจ้าอื่นในท้องตลาด แต่มีต้นทุนมากกว่า มันก็ย่อมต้องขายแพงกว่า ปัญหาคือผู้บริโภคจะยอมจ่ายแพงกว่าหรือไม่? ซึ่งตรงนี้เราต้องคำนวณว่าแบรนด์เราแข็งแค่ไหนด้วย ถ้า Packaging เป็นส่วนหนึ่งของ         อัตลักษณ์แบรนด์ ที่ทำให้ขายสินค้าแพงกว่าได้ แบบนั้นก็จะคุ้มที่จะทำ Packaging ที่โดดเด่นและต้นทุนสูงกว่า แต่ถ้าไม่เป็นแบบนั้น เราก็อาจต้องคิดให้ถ้วนถี่หน่อยว่าต้นทุนที่เพิ่มมันคุ้มกับความสวยงามที่เพิ่มมาหรือไม่

ข้อกฎหมาย

สุดท้ายสิ่งที่ต้องคำนึงก็คือข้อกฎหมายต่างๆ นี่แหละครับ ไม่ว่าเราจะต้องการความสวยงามแค่ไหน หรือมีประโยชน์ใช้สอยแค่ไหน สุดท้าย มันก็ต้องไม่ละเมิดกฎหมาย ซึ่งตรงนี้เราก็ต้องเช็คดีๆ เพราะมันก็มีความแตกต่างกันไปในแต่ละผลิตภัณฑ์ และควรจะเช็คก่อนออกแบบด้วยว่าไม่มีข้อกำหนด หรือมีข้อกำหนดยังไง  ไม่งั้นออกแบบมาสมบูรณ์ทุกอย่าง มาตกม้าตายว่ามันผิดกฎหมายก็น่าจะเฟลพอควรอยู่

กล่าวโดยสรุป การออกแบบ Packaging นั้นควรจะมีจุดเน้นที่ความสวยงามหรือประโยชน์ใช้สอยก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณากันไปตามผลิตภัณฑ์ เพราะแต่ละผลิตภัณฑ์มีตลาดไม่เหมือนกัน มีการจัดวางในร้านค้าไม่เหมือนกัน ไปจนถึงมีการขนส่งที่ไม่เหมือนกัน หรือถูกกำกับดูแลด้วยกฎหมายคนละฉบับกัน

ติดตามความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจ SMEs อื่นๆ และข้อมูลผลิตภัณฑ์สินเชื่อธุรกิจ SMEs  ได้ที่ Facebook Fanpage Krungthai SME หรือ ทาง Website https://sme.ktb.co.th/