Highlights
5 กลยุทธ์ SME ไทย ปรับไว ทันเกมสงครามการค้าโลก
- เปลี่ยน Mindset
- อย่าผูกอนาคตธุรกิจไว้กับแหล่งเดียว
- สร้างมูลค่าเพิ่มให้แบรนด์
- ใช้ดิจิทัลเปิดตลาดและคุมต้นทุน
- สร้างความมั่นคงทางการเงิน
กรุงไทย สนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ประกอบการ SME สำหรับเสริมสภาพคล่องและลงทุนในธุรกิจ
หากสนใจผลิตภัณฑ์ [คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม]
ปี 2025 กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของระบบเศรษฐกิจโลก เมื่อความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่สหรัฐอเม ริกากับจีน แต่เริ่มขยายตัวเป็นปมความขัดแย้งทางการค้าหลายจุดทั่วโลก ในบริบทเช่นนี้ SME ไทยไม่อาจพึ่งพากลยุทธ์แบบเดิมได้อีกต่อไป กลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นแต่มีเป้าหมายชัดเจนจะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ SME ไทยไม่เพียงแค่รอด แต่ยังมีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน
1. เปลี่ยน Mindset จาก “Global Growth” เป็น “Global Risk Management”
SME ต้องพิจารณาว่าตลาดปลายทางที่กำลังเข้าไปมีปัจจัยทางการเมือง เศรษฐกิจ และการค้าระหว่างประเทศที่เปราะบางเพียงใด สินค้าส่งออกหรือวัตถุดิบที่ใช้มีความเชื่อมโยงกับประเทศที่มีข้อพิพาททางการค้าหรือ ไม่ และมีทางเลือกสำรองมากพอหรือยัง หากถูกตัดขาดจากเส้นทางโลจิสติกส์เดิม เป้าหมายการบริหารความเสี่ยงในบริบทนี้ไม่ใช่การหลีกเลี่ยงตลาดโลก แต่เป็นการสร้างความสามารถในการดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง ไม่ว่าเศรษฐกิจโลกจะสั่นสะเทือนเพียงใด
2. ยืดหยุ่นห่วงโซ่อุปทาน กระจายความเสี่ยงจากแหล่งเดียว
การจัดหาวัตถุดิบหรือสินค้าจากหลายแหล่งไม่ใช่แค่สะดวก แต่เป็นกลยุทธ์ที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ การมีผู้จัดจำหน่ายสำรอง หรือแผนสำรองทางโลจิสติกส์ในยามฉุกเฉินจะช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้แม้ในวันที่ระ บบการค้าสากลมีรอยร้าว นอกจากนี้ หากนำวัตถุดิบบางส่วนกลับมาผลิตภายในประเทศได้ อาจช่วยลดแรงกระแทกจากความผันผวนภายนอกได้อย่างมีนัยสำคัญ
3. สร้างมูลค่าเพิ่มให้แบรนด์ แทนการแข่งขันราคาเพียงอย่างเดียว
การสร้างแบรนด์ที่มีอัตลักษณ์ชัดเจน สินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม หรือบริการเสริมที่เติมเต็มประสบการณ์ผู้บริโภค ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มคุณค่าให้แบรนด์โดยไม่ต้องลดราคา การพัฒนาแบรนด์ไทยที่สามารถเชื่อมโยงกับแนวคิดเช่น ความยั่งยืน ความเป็นท้องถิ่น หรือความใส่ใจต่อผู้บริโภคจะช่วยแยกตัวออกจากสินค้าทั่วไปที่ถูกมองว่าเปลี่ยนแทน กันได้ตลอดเวลา
4. ใช้ดิจิทัลเป็นกลยุทธ์หลักในการเปิดตลาดและควบคุมต้นทุน
ธุรกิจที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อลดต้นทุน ควบคุมสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ และเปิดตลาดใหม่โดยไม่ต้องลงทุนสูง จะสามารถปรับตัวได้สูงกว่าคู่แข่ง นอกจากนี้ การใช้ช่องทางขายแบบข้ามพรมแดนบน e-marketplace ต่างประเทศ ยังช่วยลดการพึ่งพาคู่ค้ารายเดียว และสร้างรายได้จากกลุ่มลูกค้าใหม่แม้อยู่ในภูมิภาคอื่นของโลก
5. สร้างความมั่นคงทางการเงิน พร้อมรับความผันผวนระยะยาว
ในภาวะที่ตลาดโลกไม่อาจคาดเดา SME ต้องเปลี่ยนการบริหารเงินจากคาดการณ์แบบตายตัว มาเป็นการบริหารด้วยแนวคิดแบบพลวัต การวางแผนกระแสเงินสดในหลายสถานการณ์ การเตรียมวงเงินสำรองในกรณีที่ยอดขายตก หรือการใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น การป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงิน (Hedging) จะช่วยลดความเสียหายจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
สงครามการค้าครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการปะทะกันระหว่างมหาอำนาจ แต่คือการปรับโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจโลกที่มีผลต่อทุกธุรกิจ ผู้ประกอบการ SME ไทยที่สามารถปลดตัวเองออกจากความเคยชิน และกล้าที่จะปรับวิธีคิด กระจายความเสี่ยง และลงทุนอย่างมีกลยุทธ์ ไม่เพียงแค่รอดพ้นจากพายุเศรษฐกิจ แต่ยังใช้เป็นแรงผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
อัปเดตวันที่ 17 ก.ย. 2568